Dr.Somchai
Dr.Somchai Acne Foaming Facial Cleanser
Description
-
How to use
ล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าก่อนแล้วใช้โฟมล้างหน้าล้างเบาๆให้ทั่วใบหน้า แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
Ingredients
Micronized Sakicylic Acid ที่มีอนุภาคขนาดเล็ก มีสารสกัดจากต้น Witch Hazel ช่วยให้ผิวผลัดตัวดีขึ้น และมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียอ่อนๆจึงช่วยลดสิวได้ด้วย Sodium PCA ที่อ่อนโยน ไม่ระคายเคืองผิว ช่วยรักาาสมดุลในผิว คือใช้แล้วหน้าจะไม่แห้งตึงมาก
Suggestion
-
Benefit( ผลลัพธ์หลังการใช้ )
2.0 Vote(s)
4
0.0 Vote(s)
4
0.0 Vote(s)
4
0.0 Vote(s)
4
0.0 Vote(s)
4
0.0 Vote(s)
4
0.0 Vote(s)
4
0.0 Vote(s)
4
0.0 Vote(s)
4
0.0 Vote(s)
4
0.0 Vote(s)
4
0.0 Vote(s)
4
0.0 Vote(s)
4
Details Product
สบู่เหลวปั้มโฟม สูตรผู้ที่มีผิวมันและมีปัญหาสิว ช่วยลดการอุดตันของผิว ใช้ได้บ่อยเท่าที่ต้องการ โดยไม่ทำให้ผิวแห้งตึง ให้ผิวชุ่มชื่น
you might also like

บทความโดย ภญ.เสาวณีย์ อินจันทร์ ปวดศีรษะ หรือปวดหัว (Headache) เป็นอาการที่พบบ่อยมากทั้งในเด็กและในผู้ใหญ่ เป็นอาการปวดที่เกิดขึ้นบริเวณศีรษะหรือคอส่วนบน ซึ่งเกิดจากเนื้อเยื่อและโครงสร้างรอบกระโหลกศีรษะหรือสมองเกิดการอักเสบหรือระคายเคือง จนทำให้เกิดอาการปวดขึ้น มีหลายภาวะ ที่ทำให้เกิดอาการปวดศีรษะ เช่น มีไข้ เครียด อดนอน ยาบางชนิด ความดันสูง ฯลฯ จนถึงโรครุนแรงในสมอง เช่น เนื้องอก เยื่อหุ้มสมองอักเสบ เป็นต้น ฟรี ปรึกษาอาหารเสริม เครื่องสำอางและความงาม ตามหลักการแพทย์โดยเภสัชกร ได้ที่ Facebook : GURUCHECK เช็ค กับ กูรู เช็ค ... อาการปวดหัว อาการปวดหัวที่พบบ่อย ๆ โดยทั่วไปแล้วมี 4 ประเภทหลัก ๆ ดังนี้ โรคปวดศรีษะไมเกรน(Migraines) จะปวดเป็นพักๆ ปวดข้างใดข้างหนึ่ง ปวดแบบตุบๆ ติดกันต่อเนื่องเป็นเวลานาน มัก มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ตาพร่ามัว หรือเห็นแสงสีร่วมอยู่ด้วย โรคปวดศรีษะจากความเครียด (Tension headache) ปวดตื้อ ๆ หนัก ๆ ตรงบริเวณต้นคอ หรือท้ายทอย หรืออาจจะปวดรอบศีรษะคล้ายถูกเข็มขัดรัด โรคปวดศรีษะแบบคลัสเตอร์(Cluster headache) อาการปวดรุนแรงแบบข้างเดียว ซึ่งมักจะปวดตุบๆที่กระบอกตา หรือรอบๆ ตา หรือที่บริเวณขมับ และมักจะเป็นข้างเดียว มักจะมีอาการน้ำตาไหลข้างเดียวและมีเส้นเลือดแตกในตา ทำให้เกิดอาการตาแดง โรคปวดศรีษะจากแรงดันในสมองสูง(Increase Intracranial Pressure) อาการปวดศีรษะแบบรุนแรง (ปวดศีรษะร้าย แรง) อาเจียนที่มีลักษณะเฉพาะ คือ จะพุ่งออกมาอย่างแรง (มักไม่ค่อยมีอาการคลื่นไส้นำก่อน) ตาพร่ามัวมองเห็นไม่ชัด มองเห็นภาพซ้อน ถ้าเป็นรุนแรงอาจ ชัก ซึมลง หมดสติ/โคม่า และ/หรือเสียชีวิตได้ เช็ค …สาเหตุของการปวดหัว โรคปวดศรีษะไมเกรน(Migraines) สาเหตุของอาการปวดศีรษะไมเกรนยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด แต่การศึกษาทางการแพทย์เชื่อว่าเกิดจากการขยายตัวของหลอดเลือดในสมอง อย่างผิดปกติ ทำให้มีสารเคมีที่ทำให้มีอาการปวดเกิดขึ้นที่ปลายประสาทรับความรู้สึกในส่วนของหน้า และศีรษะ จึงทำให้เกิดอาการปวดศีรษะ โรคปวดศรีษะจากความเครียด (Tension headache) สาเหตุก็มีหลายอย่าง เช่น ทำงานหนัก ใช้สมองมาก อารมณ์เครียด กังวลใจหรือ นอนหลับไม่เพียงพอ เป็นต้น ทำให้กล้ามเนื้อในร่างกายหดเกร็ง กระทบกับสมอง นำไปสู่อาการปวดหัว โรคปวดศรีษะแบบคลัสเตอร์(Cluster headache) เกิดจากความผิดปกติของเซลล์ประสาทสมองที่ 5 ซึ่งทำให้ระบบการส่งฮอร์โมนและสารสื่อประสาทปรวนแปร ส่งผลกระทบให้ประสาทสัมผัสอัตโนมัติที่ควบคุมการทำงานของต่อมน้ำลาย ต่อมน้ำตา และน้ำมูกทำงานผิดปกติ รวมทั้งปล่อยสารเคมีบางชนิดไปที่เยื่อหุ้มสมองชั้นนอก (Dura) ทำให้เกิดอาการปวดหัวในเวลาต่อมา โรคปวดศรีษะจากแรงดันในสมองสูง(Increase Intracranial Pressure) สาเหตุจากการมีก้อน หรือสิ่งผิดปกติภายในสมอง เช่นเนื้องอกในสมอง เลือดออกในสมอง น้ำคั่งในสมอง หรือการติดเชื้อในสมอง ฯลฯ เช็ค …ยาที่ใช้รักษาอาการปวดหัว ตัวอย่างยารักษาอาการปวดหัวที่ใช้บ่อย ชื่อตัวยา ตัวอย่างชื่อยี่ห้อ กลไกการออกฤทธิ์ วิธีใช้ 1.Paracetamol พาราเซตามอล Tylenol ไทลินอล Sara ซาร่า บรรเทาปวดและลดไข้ โดยยับยั้งการสร้างสารเคมีบางตัวในสมองของมนุษย์ที่เกี่ยวข้องกับอาการปวด เช่น สารโพรสตาแกลนดิน (Prostaglandin) และจะชักนำให้เกิดกลไกการลดอุณหภูมิหรือลดไข้ของร่างกายลง เด็ก 10-15 มิลลิกรัม/กิโลกรัม ทุก 4-6 ชั่วโมง (หากจำเป็น) ไม่เกิน 5 ครั้งภายใน 24 ชั่วโมง ผู้ใหญ่ 500 มิลลิกรัม ทุก 4-6 ชั่วโมง ไม่เกิน 4,000 มิลลิกรัม ต่อวัน *ไม่ควรทานต่อเนื่องนานติดต่อกันเกิน 5 - 7 วัน 2. Ibuprofen ไอบูโปรเฟน Nurofen นูโรเฟน Gofen โกเฟน ยับยั้งการทำงานของสารไซโคลออกซิจีเนส (Cyclooxygenase)ซึ่งจะไปเปลี่ยนสารเคมีบางกลุ่มให้กลายเป็นสารโพรสตาแกลนดิน (Prostaglandin) โพรสตาแกลนดินเป็นตัวชักนำให้เกิดอาการปวด การอักเสบ และก่อให้เกิดอาการไข้ของร่างกาย นอกจากนั้นไอบูโปรเฟนยังสามารถออกฤทธิ์โดยตรงที่สมองและบริเวณอวัยวะที่มีอาการปวดได้ เด็ก ให้รับประทานยาวันละ 30-50 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม โดยแบ่งให้ทุก 6 ชั่วโมง (สูงสุดไม่เกินวันละ 2,400 มิลลิกรัม) ผู้ใหญ่ ให้รับประทานยาครั้งละ 400-800 มิลลิกรัม วันละ 3-4 ครั้ง *ควรรับประทานพร้อมหรือหลังอาหารทันทีเพื่อลดการระคายเคืองในกระเพาะอาหาร เช็ค ... สมุนไพรที่ใช้รักษาอาการปวดหัว ใบมะยม กับสูตรแก้ปวดหัว นำใบมะยมที่เป็นใบแก่รวมกัน 1 กำมือ ต้มน้ำสะอาดกะตามต้องการ ใส่น้ำตาลกรวดอย่าให้หวานนัก ต้มจนเดือดแล้วดื่มต่างน้ำขณะอุ่นครั้งละ 1 แก้ว เช้า-เย็น ก่อนหรือหลังอาหารก็ได้ และก่อนนอน ทำดื่มเรื่อย ๆ จะช่วยให้ อาการปวดหัวที่เกิดจากสาเหตุดังกล่าว ทุเลาลงและหายในที่สุด เช็ค ... อาการปวดหัวที่ควรรีบพบแพทย์ ปวดหัวจนต้องตื่นขึ้นจากการนอน อาการปวดหัวะยังคงอยู่ต่อเนื่องอย่างน้อยตั้งแต่ 3 วันขึ้นไปและไม่ดีขึ้น มีอาการปวดหัวบ่อยขึ้นถี่ขึ้นกว่าเดิมมาก ลักษณะของอาการปวดหัวผิดปกติไปจากเดิมเช่น ปวดมากขึ้นต่อเนื่อง ไม่หาย ไปเมื่อกินยาแก้ปวดทั้งๆที่เคยกินยาแล้วดีขึ้น เมื่อมีอาการปวดหัวอย่างเฉียบพลันและรุนแรง ปวดหัวพร้อมกับมีอาการชักกระตุก ปวดหัวพร้อมกับสับสน และความรู้สึก (consciousness) เสียไป ปวดหัวพร้อมกับปวดตาและหู เช็ค ... การดูแลตัวเองเพื่อลดอาการปวดหัว จัดการเรื่องความเครียด รับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ให้ความสนใจเกี่ยวกับท่าทางเวลายืนเดิน หรือนั่ง นอนหนุนหมอนไม่เกิน 2 ใบ นอนพักผ่อนให้เพียงพอ อ้างอิงจาก 1. http://haamor.com/th 2. MIMS Thailand . TIMS. 110th Ed 2008. 3. Analgesichttp://en.wikipedia.org/wiki/Analgesic 4. https://medthai.com/ 5. http://www.starclipnews.com/health_page/3527 6. http://www.siamhealth.net

มะเร็งปากมดลูก เป็นมะเร็งที่เกิดบริเวณปากมดลูกของผู้หญิง โดยทั่วไปมักไม่พบอาการแสดงในระยะแรกที่เริ่มป่วย แต่จะมีอาการเมื่อเซลล์มะเร็งได้ลุกลามไปแล้ว สำหรับผู้หญิงไทย มะเร็งที่เป็นสาเหตุของการเสียชีวิตมากที่สุดคือมะเร็งปากมดลูก จากรายงานของสำนักงานวิจัยมะเร็งนานาชาติพบว่า ในปีพ.ศ. 2545 ประเทศไทยมีผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูกรายใหม่ปีละ 6,243 ราย เสียชีวิต 2,620 ราย หรือประมาณร้อยละ 42 ถ้าคิดคำนวณแล้วจะมีผู้หญิงไทยเสียชีวิตจากมะเร็งปากมดลูกวันประมาณ 7 คน มะเร็งปากมดลูกพบมากที่สุดในภาคเหนือของประเทศไทยเมื่อเปรียบเทียบกับภูมิภาคอื่น ๆมะเร็งปากมดลูกเป็นมะเร็งที่สามารถป้องกันได้และสามารถตรวจคัดกรองหาความผิดปกติได้ตั้งแต่ระยะก่อนมะเร็ง ซึ่งการรักษาได้ผลดี บทความโดย นพ.สุพจน์ สุไพบูลย์พิพัฒน์ ฟรี ปรึกษาอาหารเสริม เครื่องสำอางและความงาม ตามหลักการแพทย์โดยเภสัชกร ได้ที่ Facebook : GURUCHECK เช็ค กับ กูรู เช็ค ...อาการของ มะเร็งปากมดลูก อาการจะมากหรือน้อยขึ้นกับระยะของโรค ในระยะแรกอาจไม่มีอาการผิดปกติ แต่มักพบอาการของมะเร็งปากมดลูกแสดงในระยะที่เซลล์มะเร็งเริ่มพัฒนาลุกลามไปแล้ว อาการของผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูกจะมากหรือน้อยขึ้นกับระยะของมะเร็ง ในระยะแรกอาจไม่มีอาการผิดปกติและตรวจพบจากการตรวจคัดกรองหรือการตรวจด้วยกล้องขยายร่วมกับการตัดเนื้อ ออกตรวจทางพยาธิวิทยา อาการที่อาจจะพบในผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูกได้แก่ มะเร็งปากมดลูกมีระยะพัฒนาโรค โดยแบ่งออกเป็น 2 ระยะใหญ่ๆ ดังนี้ 1.ระยะก่อนมะเร็ง ระยะนี้ผู้ป่วยจะไม่มีอาการผิดปกติเลย เซลล์มะเร็งยังอยู่ภายในชั้นเยื่อบุผิว ปากมดลูก ไม่ลุกลามเข้าไปในเนื้อปากมดลูก สามารถตรวจพบได้จากการตรวจคัดกรองโดยการตรวจทางเซลล์วิทยาของปากมดลูกที่เรียกว่าแพปสเมียร์ 2. ระยะลุกลาม แบ่งออกเป็น 4 ระยะย่อย คือ ระยะที่ 1 – มะเร็งก่อตัวและฝังอยู่บริเวณปากมดลูก ระยะที่ 2 – มะเร็งเริ่มแพร่กระจายไปยังเนื้อเยื่อในบริเวณใกล้เคียง คือ ที่เนื้อเยื่อข้างปากมดลูก หรือผนังช่องคลอดส่วนบน ระยะที่ 3 – มะเร็งแพร่ไปทั่วบริเวณอวัยวะเพศหญิงและเนื้อเยื่อบริเวณอุ้งเชิงกราน หรือกดท่อไตจนเกิดภาวะไตบวมน้ำ ระยะที่ 4 – มะเร็งลุกลามไปยังกระเพาะปัสสาวะ ลำไส้ ปอด ตับ กระดูก และอวัยวะอื่น ๆ โดยทั่วไป อาการแสดงที่พบ ได้แก่ เลือดไหลออกจากช่องคลอดอย่างผิดปกติ โดยที่ไม่ใช่เลือดประจำเดือน เลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ หรือเจ็บปวดขณะมีเพศสัมพันธ์ ช่องคลอดมีกลิ่นผิดปกติ ตกขาวปนเลือด ปวดท้องน้อย หรือปวดท้องบริเวณอุ้งเชิงกรานที่ไม่ใช่ปวดประจำเดือน และมีอาการในระยะหลังเมื่อมะเร็งลุกลามมากขึ้น ได้แก่ ขาบวม ปวดหลังรุนแรง ปวดก้นกบและต้นขา ปัสสาวะเป็นเลือด ถ่ายอุจจาระเป็นเลือด เช็ค ...สาเหตุของ มะเร็งปากมดลูก สาเหตุของมะเร็งปากมดลูกส่วนใหญ่คือ การติดเชื้อไวรัส HPV (Human Papillomavirus) ที่บริเวณปากมดลูกจากการมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งมีปัจจัยเสี่ยงดังนี้ 1.ปัจจัยเสี่ยงทางฝ่ายหญิง การมีคู่นอนหลายคน มีประวัติการเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น เริม ซิฟิลิส และหนองใน เป็นต้น การมีเพศสัมพันธ์เมื่ออายุน้อยกว่า 17 ปี มีบุตรหลายคน การรับประทานยาคุมกำเนิดเป็นเวลานาน ๆ ถ้านานกว่า 5 ปี และ 10 ปี จะมีความเสี่ยง สูงขึ้น 1.3 เท่า และ 2.5 เท่า ตามลำดับ ไม่เคยได้รับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกมาก่อน 2. ปัจจัยเสี่ยงทางฝ่ายชาย เนื่องจากส่วนใหญ่ของการติดเชื้อ HPV บริเวณอวัยวะเพศได้มาจากการมีเพศสัมพันธ์ การมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายที่มีเชื้อHPV (ซึ่งส่วนใหญ่ผู้ชายจะไม่มีอาการหรือตรวจไม่พบเชื้อ) แม้เพียงครั้งเดียวก็มีโอกาสติดเชื้อ HPV และเป็นมะเร็งปากมดลูกได้ ปัจจัยเสี่ยงทางฝ่ายชายได้แก่ ผู้หญิงที่มีสามีเป็นมะเร็งองคชาติ ผู้หญิงที่แต่งงานกับชายที่เคยมีภรรยาเป็นมะเร็งปากมดลูก ผู้ชายที่เคยเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ผู้ชายที่มีประสบการณ์ทางเพศตั้งแต่อายุน้อย ผู้ชายที่มีคู่นอนหลายคน 3. ปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ที่ส่งเสริมให้เป็นมะเร็งปากมดลูกได้ง่ายหรือเร็วขึ้นได้แก่ การสูบบุหรี่ ภาวะภูมิคุ้มกันต่ำ เช่น โรคเอดส์ และการได้รับยากดภูมิคุ้มกัน เช็ค ...การรักษา มะเร็งปากมดลูก การตรวจพบมะเร็งตั้งแต่ระยะแรกเริ่ม จะยิ่งเพิ่มโอกาสในการรักษาผู้ป่วยให้หายจากโรคได้มากขึ้น การรักษามะเร็งปากมดลูกต้องรักษาตามระยะของการป่วยและอาการแทรกซ้อนที่เกิดขึ้น โดยอัตราการรอดชีวิตหลังการรักษาภายใน 5 ปี ของผู้ป่วยมะเร็ง ขึ้นอยู่กับระยะของการป่วยที่ตรวจพบและการลุกลามของมะเร็ง ได้แก่ มะเร็งระยะที่ 1 โอกาสรอดชีวิตมากกว่า 90% มะเร็งระยะที่ 2 โอกาสรอดชีวิตประมาณ 60-80% มะเร็งระยะที่ 3 โอกาสรอดชีวิตประมาณ 50% มะเร็งระยะที่ 4 โอกาสรอดชีวิตน้อยกว่า 30% แบ่งวิธีการรักษามะเร็งปากมดลูกตามระยะของมะเร็งได้ดังนี้ 1. ระยะก่อนมะเร็ง รักษาได้หลายวิธีได้แก่ การตรวจติดตามอย่างใกล้ชิด โดยการตรวจภายใน การทำแพปสเมียร์ และการตรวจด้วยกล้องขยาย ทุก 4 - 6 เดือน รอยโรคขั้นต่ำบางชนิดสามารถหายไปได้เองภายใน 1 - 2 ปี ภายหลังการตัดเนื้อออกตรวจ การตัดปากมดลูกด้วยห่วงไฟฟ้าหรือมีด(conization) การจี้ปากมดลูกด้วยความเย็น การจี้ด้วยเลเซอร์ รอยโรคในระยะก่อนมะเร็งสามารถรักษาให้หายได้โดยไม่จำเป็นต้องตัดมดลูกออก เพราะมีผลการรักษาไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ 2. ระยะลุกลาม การเลือกวิธีรักษาขึ้นกับโรคประจำตัวของผู้ป่วย ระยะของมะเร็ง และความพร้อมของโรงพยาบาลหรือแพทย์ผู้ดูแลรักษา ระยะที่ 1-2 บางราย รักษาโดยการตัดมดลูกออกแบบกว้างร่วมกับการเลาะต่อมน้ำเหลืองเชิงกรานออก ระยะที่ 2-4 รักษาโดยการฉายรังสีร่วมกับการให้ยาเคมีบำบัด เช็ค ...การป้องกัน มะเร็งปากมดลูก การป้องกันมะเร็งปากมดลูกสามารถทำได้ดังนี้ 1.ลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ HPV เช่น ไม่เปลี่ยนคู่นอนบ่อย ๆ ไม่สูบบุหรี่ 2.การฉีดวัคซีนเอชพีวี (HPV vaccine) เพื่อเสริมสร้างให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัส โดยสามารถฉีดวัคซีนได้ในช่วง 2 อายุ คือ 9 – 13 ปี และ 13 ปีขึ้นไป 3.ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก ผู้หญิงช่วงอายุ 21-29 ปี ควรเข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกทุก ๆ 3 ปี ส่วนช่วงอายุ 30-65 ปี ควรเข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกควบคู่กับการตรวจหาเชื้อ HPV ทุก ๆ 5 ปี และสำหรับผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า 65 ปี ที่ตรวจแต่ไม่เคยตรวจพบสัญญาณของมะเร็ง ก็สามารถหยุดเข้ารับการตรวจได้ แต่หากอาการผิดปกติหรือสงสัยควรปรึกษาแพทย์เพิ่มเติม อ้างอิง 1.รองศาสตราจารย์นายแพทย์จตุพล ศรีสมบูรณ์. ความรู้เกี่ยวกับมะเร็งปากมดลูก. สืบค้นเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2560. จาก http://www.rtcog.or.th/html/articles_details.php?id=13 2. นพ.ปิยวัฒน์ เลาวหุตานนท์. มะเร็งปากมดลูก. สืบค้นเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2560. จาก http://www.nci.go.th/th/File_download/thanong 3.National Cervical Cancer Coalition. Cervical Cancer Overview. Retrieved May 27, 2017, from http://www.nccc-online.org/hpvcervical-cancer/cervical-cancer-overview/ 4.สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.). มะเร็งปากมดลูก ภัยเงียบใกล้ตัว รู้ทัน ป้องกันได้. สืบค้นเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2560. จากhttp://www.thaihealth.or.th/Content

ไปสวิสเซอร์แลนด์ ซื้ออะไรดี? - เครื่องสำอาง ช็อคโกแลต นาฬิกา สวัสดีค่ะ กูรูยาหม่องรายงานตัว กลับมารีวิวรัวๆกันอีกเช่นเคย วันนี้ว่าด้วยเรื่องของสวิสเซอร์แลนด์ค่ะ สวิสเซอร์แลนด์เป็นอีกหนึ่งประเทศที่คนไทยนิยมไปเที่ยว เพราะนอกจากจะมีภูมิประเทศที่สวยงาม โดยหลายๆเมืองนั้นได้รับการจัดอันดับให้เป็นเมืองมรดกโลกแล้ว นักท่องเที่ยวหลายคนยังตั้งหน้าตั้งตาไปช้อปกันจนกระเป๋าฉีกเลยก็ว่าได้ ฟรี ปรึกษาอาหารเสริม เครื่องสำอางและความงาม ตามหลักการแพทย์โดยเภสัชกร ได้ที่ Facebook : GURUCHECK เช็ค กับ กูรู เช็ค 7 ไอเท็มสุดฮิต ไปสวิสต้องซื้อ!! กูรูเองก็เป็นอีกคนที่ไปเที่ยวสวิสกลับมาก็ประทับใจ และอย่างที่หลายๆคนทราบว่ากูรูเป็นสายเครื่องสำอาง แน่นอนว่าไปเที่ยวครั้งนี้ กูรูก็ไปเสาะแสวงหาเครื่องสำอางมาทางฝั่งบ้านเค้ามาแนะนำ เผื่อเพื่อนๆจะไปลองช้อปตามกันดู นอกจากนี้ยังมีแหล่งชอปปิ้งสินค้ายอดนิยมอย่างอื่นมาฝากกันด้วยค่ะ ปล.ณ วันที่ไปเที่ยว 1 สวิสฟรังค์ ~ 35 บาท 1.เครื่องสำอาง สวิสเป็นประเทศที่ไม่ได้เด่นเรื่องเครื่องสำอางนัก แต่ก็มีเครื่องสำอางบางตัวที่ยังไม่ค่อยเจอในบ้านเรา และหลายๆคนก็แนะนำให้ซื้อ นั่นก็คือ Eucerin สูตร AtoControl 12%omega + licochalcone A สูตรนี้เหมาะกับคนที่ผิวแห้ง ถึง แห้งมาก หรือคนที่มีผิวระคายเคือง แพ้ง่ายค่ะ รวมถึงคนที่เดินทางไปประเทศที่อากาศเย็น ไปบ่อยๆรับรองตัวนี้เอาอยู่ สูตรนี้ดีงามตรงที่มี Ceramide 3 และ Glycyrrhiza อยู่ด้วย ราคา 25.9 ฟรังค์(906 บาท) อีกตัวที่น่าสนใจคือ Lavera สูตร Basis sensitive สูตรนี้จะเน้นขาวใสหน่อย สาร active ที่ใช้ก็ถือว่าดีงาม ราคาเมื่อเทียบกับ Active ที่ใช้แล้วถือว่าถูกมาก แค่ 10.95 ฟรัวค์(383 บาท) ส่วนเครื่องสำอางอื่นๆที่เจอตามร้านขายยาของสวิส (ซึ่งกูรูแวะร้านขายยามาแทบทุกเมือง) ที่คุ้นหน้าคุ้นตาก็อย่างเช่น Vichy, La roche posay เป็นต้น ส่วนเครื่องสำอางอื่นๆที่เจอตาม shop ในห้างทั่วไป ก็เช่น Nivea, Garnier ซึ่งเครื่องสำอางเหล่านี้ราคาก็ไม่ต่างจากบ้านเรามากนัก สูตรที่เป็นแบบครีม เช่น นีเวียครีม ของบ้านเค้าจะข้นกว่าบ้านเรามาก ใครที่ชอบครีมแบบบางเบาอาจจะไม่ชอบ เพราะอาจให้ความรู้สึกเหนอะหนะไป สำหรับใครที่อยากซื้อเครื่องสำอางมาเป็นของฝาก นีเวียโลชั่นก็น่าสนค่ะ เพราะมีหลายกลิ่นให้เลือก ซึ่งบ้านเรายังไม่มี และราคาก็ไม่แพง แค่ประมาณ 70-80 บาท 2.น้ำหอม น้ำหอมก็มีหลายแบรนด์ให้เลือกสรรค์ ที่เจอมาแบบว่าโปรเด็ด ราคาดีงามเลย ต้องที่เมือง เซ็นต์มอริทซ์ ใกล้กับทะเลสาบเซนต์มอริทซ์ ราคาแต่ละขวดก็ว่าถูกกว่า king power แล้ว แต่นี่เค้ามีโปร ซื้อ 2 แถม 1 อีกตะหาก ดีงาม! 3.ซ็อคโกแลต ยี่ห้อที่นิยมก็ เช่น Lindt อีกยี่ห้อที่แนะนำให้ลองคือ Cailler โดยเฉพาะที่เป็นใส้บลูเบอร์รี่ผสมกับอัลมอลและถั่วอร่อยดีงามมาก กูรูเองไม่ชอบทานช็อคโกแล็ตนะคะ แต่รสนี้ต้องยอม ซื้อกลับบ้านมาเยอะเลย แนะนำให้ซื้อใน COOP นะคะ ราคาจะถูกกว่าร้านอื่นๆเกือบเท่าตัว (โคออป คือ ร้านสหกรณ์ที่ขายของในราคาถูก) ร้าน COOP มีอยู่ทุกเมือง แต่เท่าที่สำรวจดู COOP ที่ เมืองเซอร์แมทราคาจะถูกสุด ส่วนช็อคโกแลต Lindt ถ้าใครมีโอกาสได้ขึ้นจุงเฟรา ก็แนะนำให้ซื้อที่จุงเฟราค่ะ เพราะหลายๆตัวของ Lindt ถูกกว่าใน COOP อิ๊ก อ่อ ช็อคโกแล็ตถ้าใครชอบแนวออกขมก็แนะนำให้ซื้อแบบ Noir(นัว)นะคะ จะออกแนวเข้มข้นหน่อย 4.โอวัลตินสวิส รสชาติจะออกแน วเข้มข้นกว่าบ้านเราค่ะ ของสวิสจะชื่อ Ovomaltine ก็เป็นอีกหนึ่ง recommend ที่ไปสวิสต้องห้ามพลาดค่ะ 5.กระเป๋า ก็มีแบรนม ให้พบเห็นหลายยี่ห้อ กูรูแอบสอย Longchamp มา 2 ใบ ราคาถูกกว่า king power บ้านเราค่ะ 2 ใบนี้ไปได้ที่เมือง เซอร์แมท ร้าน WEGA ค่ะ ในร้านมีขายแบรนด์เนมอยู่หลายยี่ห้อ(ร้านอยู่ตรงข้ามสถานีรถไฟเซอร์แมทเลย) ร้านนี้จะมี tax refund แบ่งเป็นแต่ช่วงราคานะคะ ถ้าซื้อไม่เกิน 1000 ฟรังค์ ก็ tax refund แค่ 5% -ใบหนังสีดำ size m ราคา 480 ฟรังค์ tax refund แล้ว ก็ประมาณ 16,200 บาท(king power 21,000 บาท) -ใบสีแดง รุ่น standard size เล็กสุด หูยาว ราคา 85 ฟรังค์ tax refund แล้ว ก็ประมาณ 2,800 บาท(king power 3,100 บาท) ใครอยากได้ Longchamp ที่ราคาถูกที่สุดแนะนำที่เมือง Interlaken ค่ะ ที่ร้าน Bucherer ราคาตั้งอาจจะเท่ากันทุกเมือง แต่ที่นี่มีลด 8% และ tax refund อีก 8% แต่ปัญหาคือ เมืองนี้คนไทยและคนจีนเที่ยวเยอะ อาจต้องใช้ความสามารถในการแย่งชิงหน่อย ส่วนใหญ่จะไม่มีสีที่ต้องการ ใครที่เงินหนัก ชอบใช้กระเป๋า high end เช่น Hermes แนะนำให้ซื้อที่เมือง เซ็นต์มอริทซ์ค่ะ เพราะคนไม่เยอะ และบริการดี ส่วนเมืองที่คนไทยหรือคนจีนเที่ยวเยอะ อาจจะไม่มีรุ่นที่อยากได้ หรือถ้าไม่ใช่ลูกค้าประจำกันจริงๆ ส่วนใหญ่ทางร้านก็ไม่ค่อยให้ดูของ 6.มีด ที่ได้รับความนิยมคือ มีดพับ Victorynox ก็มีให้เลือกหลายแบบ ที่คนไทยซื้อกันเยอะๆก็จะเป็น ชุดมีดที่มีกรรไกรตัดเล็บอยู่ด้วย ราคาก็ประมาณ 27 ฟรังค์(945 บาท) หรืออาจจะซื้อชุดกรรไกรตัดเล็บที่เป็นแบบพวงกุญแจมาก็ได้ค่ะ ถ้าไ ม่ใช่แบรนด์ Victorynox ขนาดจะเล็กหน่อย ก็ราคาไม่แพงมาก 9.5 ฟรังค์(332 บาท) **ของฝากเหล่านี้มีอยู่แทบทุกเมือง ที่นิยมซื้อกัน คือที่ร้าน casagrande หรือจะซื้อที่ร้านพี่อารีย์(เป็นร้านคนไทยอยู่ใกล้ๆ อนุสาวรีย์สิงโตหิน) อยู่ที่เมืองลูเซิร์น 2 ร้านนี้ราคารวมลดแล้วก็พอๆกันค่ะ 7.นาฬิกา แน่นอนว่านาฬิกาของสวิสถือว่าเป็นสินค้า recommended แบรนด์ที่นิยมของคนไทยก็เช่น Rolex, Tag heuer, Omega เป็นต้น แต่ถ้าเป็นแบรนด์ล่างหน่อย ราคาไม่แพงนัก ก็เช่น Swatch, Titsot, Victorynox, Swiss military เป็นต้น ส่วนตัวกูรูชอบดีไซน์ของ Luminox เลยซื้อมาราคาประมาณ 540 ฟรังค์ รวมลดและ tax refund แล้วคิดเป็นเงินไทยก็ประมาณ 15,000 บาท สำหรับใครที่แพลนจะไปเที่ยวสวิสเซอร์แลนด์ นอกจากจะไปดื่มด่ำกับธรรมชาติที่งดงามแล้วก็อย่าลืมแวะช้อปของฝากกันนะคะ ส่วนใครที่มีของดี ของเด็ด อยากจะแนะนำ ก็มาคอมเม้นต์ได้นะคะ วันนี้กูรูไปแล้ว บายค่าา