Oriental Princess
Natural Sunscreen Age Defense UV Protector For Face SPF 50 PA +++

Brand
Name
Natural Sunscreen Age Defense UV Protector For Face SPF 50 PA +++
Size & Price
Shop
Description
-
How to use
ปกป้องผิวหน้าจากแสงแดดทุกวัน เพื่อผิวสวย ไร้ความหมองคล้ำและจุดด่างดำ
Ingredients
-
Suggestion
-
Benefit( ผลลัพธ์หลังการใช้ )
0.0 Vote(s)
4
0.0 Vote(s)
4
0.0 Vote(s)
4
0.0 Vote(s)
4
0.0 Vote(s)
4
0.0 Vote(s)
4
0.0 Vote(s)
4
0.0 Vote(s)
4
0.0 Vote(s)
4
0.0 Vote(s)
4
0.0 Vote(s)
4
0.0 Vote(s)
4
0.0 Vote(s)
4
0.0 Vote(s)
4
0.0 Vote(s)
4
Details Product
โลชั่นกันแดดสูตรน้ำนมเนื้อนุ่มละมุน ป้องกันรังสี UVA และ UVB จากแสงแดดไม่ให้ทำร้ายผิวได้ยาวนานตลอดวันให้ผิวดูนวลเนียนกระจ่างใสตลอดวัน โดยไม่ทิ้งความเหนอะหนะและความมันเงาไว้บนผิว ภายใต้เทคโนโลยีการผลิตนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น ลดเลือนและชะลอการเกิดริ้วรอยแห่งวัย ปรับผิวให้กระจ่างใส เรียบเนียน ดูอ่อนเยาว์ยาวนาน
you might also like

บทความโดย ภญ.เสาวณีย์ อินจันทร์ เป็นภาวะที่ความถี่ในการถ่ายเพิ่มขึ้นและเนื้อของอุจจาระลดลง เมื่อเปรียบเทียบกับสภาวะปกติของร่างกาย ฟรี ปรึกษาอาหารเสริม เครื่องสำอางและความงาม ตามหลักการแพทย์โดยเภสัชกร ได้ที่ Facebook : GURUCHECK เช็ค กับ กูรู เช็ค ...อาการท้องเสีย อาการที่ถ่ายอุจจาระเหลวหรือถ่ายเป็นน้ำตั้งแต่ 3 ครั้งขึ้นไป หรือถ่ายเป็นมูกเลือดตั้งแต่ 1 ครั้งขึ้นไป ภายใน 24 ชั่วโมง ในบางรายอาจมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น อาการตะคริวที่บริเวณหน้าท้อง ปวดท้อง ท้องอืด คลื่นไส้ อ่อนเพลีย รู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัว และมีไข้ อาการเหล่านี้หากมีอาการไม่เกิน 2 สัปดาห์ จะเรียกว่า ท้องเสียเฉียบพลัน แต่หากนานเกิด 2 สัปดาห์จะเรียกว่า ท้องเสียเรื้อรัง เช็ค ...สาเหตุการท้องเสีย ท้องเสียเกิดได้จากหลายสาเหตุ ดังนี้ การติดเชื้อแบคทีเรีย ส่วนใหญ่เกิดจากการรับประทานอาหารหรือน้ำที่มีการปนเปื้อนของเชื้อ Campylobacter, Salmonella, Shigellaหรือ Escherichia coli (E. coli) เข้าไปในร่างกาย การติดเชื้อไวรัส ที่ก่อให้เกิดอาการท้องเสีย เช่น rotavirus, norovirus, cytomegalovirus ฯลฯ โดยเชื้อไวรัสrotavirus เป็นสาเหตุของการเกิดอาการท้องเสียในเด็กมากที่สุด ซึ่งสามารถหายได้ภายใน 3-7 วัน แต่อาจจะก่อให้เกิดปัญหาในการย่อยและดูดซึมแล็กโทสที่พบในน้ำนมได้ การได้รับเชื้อปรสิต โดยเข้าสู่ร่างกายผ่านอาหารและน้ำที่ปนเปื้อน และอาศัยอยู่ในระบบย่อยอาหารของคนเรา เชื้อปรสิตที่มักพบ คือ Giardia lamblia, Entamoebahistolyticaและ Cryptosporidium โรคระบบทางเดินอาหารและระบบลำไส้ผิดปกติ เช่น โรคโครห์น (Crohn’s Disease) โรคลำไส้อักเสบ โรคลำไส้ใหญ่อักเสบเป็นแผลเรื้อรัง โรคเซลิแอคหรือแพ้กลูเตน โรคลำไส้แปรปรวน แพ้อาหารหรือธาตุอ่อน มีปัญหาในการย่อยสารอาหารบางประเภทหรือที่เรียกว่า ภูมิแพ้อาหาร เช่น การแพ้แล็กโทส ซึ่งเป็นน้ำตาลที่พบมากในนม หรือสารทดแทนความหวานในปริมาณมาก การตอบสนองต่อยาบางประเภท เช่น ยาปฏิชีวนะ ยารักษาโรคมะเร็ง และยาลดกรดที่มีแมกนีเซียม ก็สามารถทำให้เกิดอาการท้องเสียได้ การผ่าตัดกระเพาะอาหารบางส่วนออกไป อาจเกิดภาวะการดูดซึมอาหารที่ผิดปกติ เนื่องจากเชื้อโรคที่ปนเปื้อนในอาหารไม่ถูกย่อยทำลายเมื่อเข้าสู่กระเพาะอาหาร จึงเล็ดลอดไปสู่ลำไส้เล็กและสร้างสารพิษขึ้น ส่งผลให้ผนังลำไส้เล็กเกิดอาการอักเสบ ไม่สามารถดูดซึมน้ำและอาหารได้เป็นปกติ ทำให้เกิดอาหารท้องเสียขึ้น กลุ่มที่ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ เช่น อาหารเป็นพิษ เกิดอาการปวดท้อง ท้องเสีย อาเจียน อย่างเฉียบพลันและมักรุนแรง มักเกิดภายหลังรับประทานอาหารได้สัก 1-2 ชั่วโมง เช็ค ...ยาที่ใช้รักษาท้องเสีย ยาที่ใช้รักษาจะแบ่งตามลักษณะอาการของผู้ป่วย การใช้ยาปฏิชีวนะหรือยาฆ่าเชื้อเพื่อรักษาผู้ป่วยที่มีอาการท้องเสีย มักจะพิจารณาให้การรักษาเฉพาะในผู้มีอาการท้องเสียที่ถ่ายเป็นมูกเลือด หรือผู้มีอาการถ่ายเหลวเป็นน้ำหรือน้ำซาวข้าวที่มีอาการแสดงของการขาดน้ำ ตัวอย่างยาปฏิชีวนะที่ใช้รักษาอาการท้องเสีย ชื่อตัวยา ตัวอย่างชื่อยี่ห้อ กลไกการออกฤทธิ์ วิธีใช้ 1.Norfloxacin (นอร์ฟล็อกซาซิน) เล็กซินอร์ Lexinor นอร์ซาซิน Norxacin ยับยั้งการทำงานของสารเคมีบางตัว เช่น สารดีเอ็นเอไจเรส (DNA Gyrase) ซึ่งอยู่ในขบวนการสร้างสารพันธุกรรมในแบคทีเรีย ส่งผลทำให้การขยายตัวและแพร่พันธุ์ของแบคทีเรียลดลง ผู้ใหญ่รับประทานครั้งละ 400 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้งก่อนอาการ เช้า เย็น ควรใช้ติดต่อกันประมาณ 3 - 5 วัน 2.Ciprofloxacin (ไซโปรฟลอกซาซิน) Cifloxin (ซิโฟลซิน) ออกฤทธิ์ยับยั้งการสังเคราะห์สารพันธุกรรมของแบคที เรียที่เรียกว่า ดีเอนเอ (DNA) จึงส่งผลยับยั้งการแพร่พันธุ์ของแบคทีเรีย ผู้ใหญ่รับประทานครั้งละ 250-500 มิลลิกรัม ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรค วันละ 2 ครั้ง หลังอาการ เช้า เย็น ควรใช้ติดต่อกันประมาณ 3 - 5 วัน 2.ผู้ที่มีอาการท้องเสียแบบถ่ายเหลวไม่มีเลือดปน และไม่มีอาการขาดน้ำ ไม่จำเป็นต้องรักษาด้วยยาปฏิชีวนะหรือยาฆ่าเชื้อแนะนำให้ดื่มสารละลายเกลือแร่ (Oral rehydration salts, ORS) เพื่อป้องกันอาการขาดน้ำและเกลือแร่ที่เสียไปจากการท้องเสีย ซึ่งวิธีการรับประทานเกลือแร่ที่ถูกต้องคือ ควรให้ผู้ป่วยจิบรับประทานสารละลาย ORS ในปริมาณน้อยๆ ไปเรื่อยๆ แต่จิบบ่อยๆ 3.ยารักษาตามอาการที่ผู้ป่วยเป็น เช่น ท้องเสีย ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน ตัวอย่างยาที่ใช้รักษาตามอาการที่เป็นร่วมกับอาการท้องเสีย ชื่อตัวยา ตัวอย่างชื่อยี่ห้อ กลไกการออกฤทธิ์ วิธีใช้ 1. Bismuth subsalicylate (บิสมัท ซับซาลิไซเลต) Gastro-bismol แกสโตรบิสมอล ช่วยยับยั้งการหลั่งสารน้ำ (เช่น กรดและเอนไซม์ต่างๆ) ในทางเดินอาหาร และลดการอักเสบของผนังกระเพาะอาหารและลำไส้ ส่วนบิสมัทจะออกฤทธิ์ต่อต้านเชื้อแบคทีเรียในระบบทางเดินอาหาร จึงช่วยรักษาและป้องกันอาการท้องเสียได้ รับประทานครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหาร เช้า กลางวัน เย็น 2. Hyoscine (ไฮอสซีน) Buscopan บุสโคพาน ตัวยาไฮออสซีนจะมีกลไกการออกฤทธิ์โดยการเข้าไปแข่งขันและยับยั้งการทำงานของตัวรับ (Receptor) ที่ชื่อว่า มัสคารินิก ทำให้กล้ามเนื้อเรียบของอวัยวะภายในเกิดการคลายตัว จึงลดอาการปวดเกร็งช่องท้องได้ รับประทานครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหาร เช้า กลางวัน เย็น 3. Domperidone (ดอมเพอริโดน) Motilium ยาโมทิเลียม กระตุ้นให้หลอดอาหาร กระเพาะอาหาร และลำไส้เล็ก มีการบีบและเคลื่อนตัวได้มากขึ้น ทำให้ลดอาการคลื่นไส้ อาเจียน รับประทานครั้งล่ะ 1 เม็ด ก่อนอาหาร เช้า กลางวัน เย็น เช็ค ...การปฏิบัติตัวเมื่อท้องเสีย 1. พักผ่อน หยุดงาน หรือหยุดเรียน 2. ดื่มน้ำมากๆ ดื่มน้ำผงเกลือแร่ เมื่อถ่ายเป็นน้ำหรือรู้สึกปากแห้ง 3. กินอาหารอ่อน อาหารเหลว หรืออาหารรสจืด 4. ยังไม่ควรกินยาหยุดท้องเสียด้วยเหตุผลดังกล่าวแล้ว อาจกินยาลดไข้ บรรเทาอาการปวดท้อง 5. รักษาสุขอนามัยพื้นฐาน (สุขบัญญัติแห่งชาติ) เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อสู่ผู้อื่น เช็ค ...อาการท้องเสียที่ควรรีบพบแพทย์ อาการท้องเสียไม่ดีขึ้นภายใน 1 - 2 วัน (ในเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หรือคนมีภูมิคุ้มกันต้านทานโรคต่ำ ควรพบแพทย์เมื่ออาการท้องเสียไม่ดีขึ้นภายใน 1 วัน) ปวดท้องมาก และ/หรือ คลื่นไส้ อาเจียน และ/หรือ ตัว/ตาเหลือง มีไข้สูง อุจจาระเป็นมูก หรือมูกเลือด หรือมีสีดำและเหนียวเหมือนยางมะตอย (อาการของการมีเลือดออกในกระเพาะอาหาร อ้างอิงจาก 1. Health Organization. Diarrhea Treatment Guidelines. The MOST Project; 2005. 2. World Gastroenterology Organization. Acute diarrhea in adults and children: a global perspective [Internet]. 2012 [Cited 2014 Aug 3]. Available from: http://www.worldgastroenterology.org. 3. ดร.ปริญญา อรุโณทยานันท์. เกลือเพื่อชีวิต [Internet]. [Cited 2014 Aug 31]. Available from: https://www.gpo.or.th/rdi/html/ors.html. 4. สมาคมแพทย์โรคระบบทางเดินอาหารแห่งประเทศไทย. แนวทางการดูแลรักษาผู้ป่วย โรคอุจจาระร่วงเฉียบพลันในผู้ใหญ่. กรุงเทพฯ:โรงพิมพ์ชุมชุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย; 2546. 5. https://www.pobpad.com/ 6. http://haamor.com/th/

เพื่อนๆเคยสงสัยไหมค่ะ ว่าพุงมาจากไหน จริงๆ แล้วพุงมีหลายแบบนะคะ ไปดูกันค่ะ ว่ามีแบบไหนบ้าง บทความโดย กูรูอ้อมมี้ ฟรี ปรึกษาอาหารเสริม เครื่องสำอางและความงาม ตามหลักการแพทย์โดยเภสัชกร ได้ที่ Facebook : GURUCHECK เช็ค กับ กูรู เช็ค ...คุณมีพุงแบบไหน? ภาพจาก Bellybreak.com 1.spare tyre tummy พุงนุ่มสะสมเป็นชั้นๆ เกิดจากชอบกินของหวาน ขาดการออกกำลังกาย หากงดกินจุบจิบ ลดแป้งลด น้ำตาล งดดื่มแอลกอฮอล์ งดเครื่องดื่มน้ำตาลสูงต่างๆ รับประทานผักสด อาหารสด ออกกำลังกายมากๆสม่ำเสมอ ก็จะช่วยได้ค่ะ 2.stress tummy มีพุงแข็งคล้ายท้องอืดยื่น ช่วงกะบังลม หรือ ใต้ลิ้นปี่ถึงสะดือ สาเหตุหลักเกิดจากคุณเป็นคนทำงานหนัก เอาจริงเอาจัง เครียด กินไม่เป็นเวลาจนระบบลำไส้ผิดปกติ ร่างกายผลิตคอร์ติซอล ที่ทำให้เกิดไขมันบริเวณหน้าท้องให้คลายความเครียด การรับทานอาหารตรงเวลา ไม่นอนดึก ลดคาเฟอีน ออกกำลังกายประเภทโยคะแทนคาดิโอหนักๆจะช่วยลดพุงประเภทนี้ได้ค่ะ 3.little pooch tummy ร่างกายทั่วไปผอม แต่มีพุงสะสมน้อยๆถึงมากช่วงท้องน้อย คุณอาจมีพุงน้อยๆทั้งๆที่เป็นคนแอคทีฟและออกกำลังกายเป็นประจำ แต่เป็นการออกกำลังกายท่าเดิมประจำ การซิทอัพผิดวิธีอาจทำให้กล้ามเนื้อสะสมยื่นได้ ลองเปลี่ยนพฤติกรรมก จากการทานอาหารเดิมๆซ้ำๆที่อาจทำให้ไขมันสะสมโดยไม่รู้ตัว เป็นอาหารเส้นใยสูงผักใบเขียวจะช่วยได้ค่ะ 4.mummy tummy พุงคุณแม่หลังคลอดมดลูกยังไม่เข้าอู่ คุณแม่หลังคลอด อย่าเพิ่งรีบร้อนออกกำลังกายให้ร่างกายเข้าที่ใน 2-3 เดือนนะคะ การออกกำลังกายประเภทเสริมความแข็งแรงกล้ามเนื้อท้องช่วงล่าง รับประทานไขมันที่ดีจากถั่ว มะกอก และ น้ำมันปลาอาจพักผ่อนเล็กน้อยตอนกลางวัน และยืดเส้นสายเล็กน้อยก่อนเข้านอนเพื่อช่วยให้ร่างกายเผาผลาญไขมันได้ดีขึ้นค่ะ 5.bloated tummy หน้าท้องแบนในตอนเช้า แต่ท้องอืด และ เกิดแก๊ส พุงป่องในตอนเย็น ให้ลองสังเกตอาหารที่กินแล้วอึดอัด เช่น พิซซ่า ขนมปัง เค้ก นม เนย ชีส ลองงดแล้วสังเกตว่าระบบย่อย ดีขึ้นรึป่าว ลองปรับเปลี่ยนไปทานอาหารย่อยง่าย เช่น ปลา ผัก รับประทานเป็นเวลามากขึ้น งดมื้อดึก ดื่มน้ำมากๆ และอาจเดินเล่นหลังอาหารเพื่อช่วยระบบย่อย ก็จะช่วยลดพุงแบบนี้ได้ค่ะ อ่านจบแล้วรีบดูพุงตัวเองกันเลย ใช่ไหมหละค่ะ ถ้ารู้แล้วว่าเป็นแบบไหนแล้วก็ลองแก้ไขตามนั้นเลยนะคะ