Oryze
Oryze Nourishing Essence
Description
• Oryze เอสเซ้นส์ ใส บางเบา ให้สัมผัสอ่อนโยนต่อผิว ช่วยฟื้นบารุงเซลล์ผิวให้กระจ่างใส ขจัดความมันบนใบหน้าอย่างมีประสิทธิภาพ
How to use
เพียง 3 หยด แตะผิวเบาๆ ทั่วใบหน้า เป็นการกระตุ้นเซลล์ผิว ให้ตื่นตัว และรับคุณค่าอาหารผิวได้เร็วล้าลึก
Ingredients
-
Suggestion
-
Benefit( ผลลัพธ์หลังการใช้ )
0.0 Vote(s)
16
0.0 Vote(s)
16
0.0 Vote(s)
16
0.0 Vote(s)
16
0.0 Vote(s)
16
0.0 Vote(s)
16
0.0 Vote(s)
16
0.0 Vote(s)
16
0.0 Vote(s)
16
0.0 Vote(s)
16
0.0 Vote(s)
16
0.0 Vote(s)
16
0.0 Vote(s)
16
0.0 Vote(s)
16
0.0 Vote(s)
16
0.0 Vote(s)
16
Details Product
Oryze Nourishing Essence
โอริเซ่ นอริชชิ่ง เอสเซ้นส์
- เอสเซ้นส์ ใส บางเบา ให้สัมผัสอ่อนโยนต่อผิว
- ช่วยฟื้นบารุงเซลล์ผิวให้กระจ่างใส
- ขจัดความมันบนใบหน้าอย่างมีประสิทธิภาพ
- เก็บกัก รักษาความชุ่มชื้น
- ปกป้อง ลดการอักเสบ และ ซ่อมแซม
- บำรุงเซลล์ผิว ถึงผิวชั้นกลาง
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว ให้ผิวมีความยืดหยุ่น นุ่มนวล ยกกระชับ
- ช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดเมลานิน ที่เป็นตัวการในการเกิดฟ้า กระ จุดด่างดา
- ลดเลือนความหมองคล้ำให้ผิวกระจ่างใส ลึกถึงเซลล์ผิว
- ฟื้นฟูเซลล์ผิวที่แห้งกร้าน อ่อนล้า กลับมาชุ่มชื่นมีชีวิตชีวา เปล่งประกาย นุ่มเนียน ลื่น
- ปรับสภาพผิวให้ พร้อมต่อการปรนนิบัติผิว สู่การบำรุงขั้นตอนต่อไป
you might also like

บทความโดย ภญ.เสาวณีย์ อินจันทร์ ปวดศีรษะ หรือปวดหัว (Headache) เป็นอาการที่พบบ่อยมากทั้งในเด็กและในผู้ใหญ่ เป็นอาการปวดที่เกิดขึ้นบริเวณศีรษะหรือคอส่วนบน ซึ่งเกิดจากเนื้อเยื่อและโครงสร้างรอบกระโหลกศีรษะหรือสมองเกิดการอักเสบหรือระคายเคือง จนทำให้เกิดอาการปวดขึ้น มีหลายภาวะ ที่ทำให้เกิดอาการปวดศีรษะ เช่น มีไข้ เครียด อดนอน ยาบางชนิด ความดันสูง ฯลฯ จนถึงโรครุนแรงในสมอง เช่น เนื้องอก เยื่อหุ้มสมองอักเสบ เป็นต้น ฟรี ปรึกษาอาหารเสริม เครื่องสำอางและความงาม ตามหลักการแพทย์โดยเภสัชกร ได้ที่ Facebook : GURUCHECK เช็ค กับ กูรู เช็ค ... อาการปวดหัว อาการปวดหัวที่พบบ่อย ๆ โดยทั่วไปแล้วมี 4 ประเภทหลัก ๆ ดังนี้ โรคปวดศรีษะไมเกรน(Migraines) จะปวดเป็นพักๆ ปวดข้างใดข้างหนึ่ง ปวดแบบตุบๆ ติดกันต่อเนื่องเป็นเวลานาน มัก มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ตาพร่ามัว หรือเห็นแสงสีร่วมอยู่ด้วย โรคปวดศรีษะจากความเครียด (Tension headache) ปวดตื้อ ๆ หนัก ๆ ตรงบริเวณต้นคอ หรือท้ายทอย หรืออาจจะปวดรอบศีรษะคล้ายถูกเข็มขัดรัด โรคปวดศรีษะแบบคลัสเตอร์(Cluster headache) อาการปวดรุนแรงแบบข้างเดียว ซึ่งมักจะปวดตุบๆที่กระบอกตา หรือรอบๆ ตา หรือที่บริเวณขมับ และมักจะเป็นข้างเดียว มักจะมีอาการน้ำตาไหลข้างเดียวและมีเส้นเลือดแตกในตา ทำให้เกิดอาการตาแดง โรคปวดศรีษะจากแรงดันในสมองสูง(Increase Intracranial Pressure) อาการปวดศีรษะแบบรุนแรง (ปวดศีรษะร้าย แรง) อาเจียนที่มีลักษณะเฉพาะ คือ จะพุ่งออกมาอย่างแรง (มักไม่ค่อยมีอาการคลื่นไส้นำก่อน) ตาพร่ามัวมองเห็นไม่ชัด มองเห็นภาพซ้อน ถ้าเป็นรุนแรงอาจ ชัก ซึมลง หมดสติ/โคม่า และ/หรือเสียชีวิตได้ เช็ค …สาเหตุของการปวดหัว โรคปวดศรีษะไมเกรน(Migraines) สาเหตุของอาการปวดศีรษะไมเกรนยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด แต่การศึกษาทางการแพทย์เชื่อว่าเกิดจากการขยายตัวของหลอดเลือดในสมอง อย่างผิดปกติ ทำให้มีสารเคมีที่ทำให้มีอาการปวดเกิดขึ้นที่ปลายประสาทรับความรู้สึกในส่วนของหน้า และศีรษะ จึงทำให้เกิดอาการปวดศีรษะ โรคปวดศรีษะจากความเครียด (Tension headache) สาเหตุก็มีหลายอย่าง เช่น ทำงานหนัก ใช้สมองมาก อารมณ์เครียด กังวลใจหรือ นอนหลับไม่เพียงพอ เป็นต้น ทำให้กล้ามเนื้อในร่างกายหดเกร็ง กระทบกับสมอง นำไปสู่อาการปวดหัว โรคปวดศรีษะแบบคลัสเตอร์(Cluster headache) เกิดจากความผิดปกติของเซลล์ประสาทสมองที่ 5 ซึ่งทำให้ระบบการส่งฮอร์โมนและสารสื่อประสาทปรวนแปร ส่งผลกระทบให้ประสาทสัมผัสอัตโนมัติที่ควบคุมการทำงานของต่อมน้ำลาย ต่อมน้ำตา และน้ำมูกทำงานผิดปกติ รวมทั้งปล่อยสารเคมีบางชนิดไปที่เยื่อหุ้มสมองชั้นนอก (Dura) ทำให้เกิดอาการปวดหัวในเวลาต่อมา โรคปวดศรีษะจากแรงดันในสมองสูง(Increase Intracranial Pressure) สาเหตุจากการมีก้อน หรือสิ่งผิดปกติภายในสมอง เช่นเนื้องอกในสมอง เลือดออกในสมอง น้ำคั่งในสมอง หรือการติดเชื้อในสมอง ฯลฯ เช็ค …ยาที่ใช้รักษาอาการปวดหัว ตัวอย่างยารักษาอาการปวดหัวที่ใช้บ่อย ชื่อตัวยา ตัวอย่างชื่อยี่ห้อ กลไกการออกฤทธิ์ วิธีใช้ 1.Paracetamol พาราเซตามอล Tylenol ไทลินอล Sara ซาร่า บรรเทาปวดและลดไข้ โดยยับยั้งการสร้างสารเคมีบางตัวในสมองของมนุษย์ที่เกี่ยวข้องกับอาการปวด เช่น สารโพรสตาแกลนดิน (Prostaglandin) และจะชักนำให้เกิดกลไกการลดอุณหภูมิหรือลดไข้ของร่างกายลง เด็ก 10-15 มิลลิกรัม/กิโลกรัม ทุก 4-6 ชั่วโมง (หากจำเป็น) ไม่เกิน 5 ครั้งภายใน 24 ชั่วโมง ผู้ใหญ่ 500 มิลลิกรัม ทุก 4-6 ชั่วโมง ไม่เกิน 4,000 มิลลิกรัม ต่อวัน *ไม่ควรทานต่อเนื่องนานติดต่อกันเกิน 5 - 7 วัน 2. Ibuprofen ไอบูโปรเฟน Nurofen นูโรเฟน Gofen โกเฟน ยับยั้งการทำงานของสารไซโคลออกซิจีเนส (Cyclooxygenase)ซึ่งจะไปเปลี่ยนสารเคมีบางกลุ่มให้กลายเป็นสารโพรสตาแกลนดิน (Prostaglandin) โพรสตาแกลนดินเป็นตัวชักนำให้เกิดอาการปวด การอักเสบ และก่อให้เกิดอาการไข้ของร่างกาย นอกจากนั้นไอบูโปรเฟนยังสามารถออกฤทธิ์โดยตรงที่สมองและบริเวณอวัยวะที่มีอาการปวดได้ เด็ก ให้รับประทานยาวันละ 30-50 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม โดยแบ่งให้ทุก 6 ชั่วโมง (สูงสุดไม่เกินวันละ 2,400 มิลลิกรัม) ผู้ใหญ่ ให้รับประทานยาครั้งละ 400-800 มิลลิกรัม วันละ 3-4 ครั้ง *ควรรับประทานพร้อมหรือหลังอาหารทันทีเพื่อลดการระคายเคืองในกระเพาะอาหาร เช็ค ... สมุนไพรที่ใช้รักษาอาการปวดหัว ใบมะยม กับสูตรแก้ปวดหัว นำใบมะยมที่เป็นใบแก่รวมกัน 1 กำมือ ต้มน้ำสะอาดกะตามต้องการ ใส่น้ำตาลกรวดอย่าให้หวานนัก ต้มจนเดือดแล้วดื่มต่างน้ำขณะอุ่นครั้งละ 1 แก้ว เช้า-เย็น ก่อนหรือหลังอาหารก็ได้ และก่อนนอน ทำดื่มเรื่อย ๆ จะช่วยให้ อาการปวดหัวที่เกิดจากสาเหตุดังกล่าว ทุเลาลงและหายในที่สุด เช็ค ... อาการปวดหัวที่ควรรีบพบแพทย์ ปวดหัวจนต้องตื่นขึ้นจากการนอน อาการปวดหัวะยังคงอยู่ต่อเนื่องอย่างน้อยตั้งแต่ 3 วันขึ้นไปและไม่ดีขึ้น มีอาการปวดหัวบ่อยขึ้นถี่ขึ้นกว่าเดิมมาก ลักษณะของอาการปวดหัวผิดปกติไปจากเดิมเช่น ปวดมากขึ้นต่อเนื่อง ไม่หาย ไปเมื่อกินยาแก้ปวดทั้งๆที่เคยกินยาแล้วดีขึ้น เมื่อมีอาการปวดหัวอย่างเฉียบพลันและรุนแรง ปวดหัวพร้อมกับมีอาการชักกระตุก ปวดหัวพร้อมกับสับสน และความรู้สึก (consciousness) เสียไป ปวดหัวพร้อมกับปวดตาและหู เช็ค ... การดูแลตัวเองเพื่อลดอาการปวดหัว จัดการเรื่องความเครียด รับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ให้ความสนใจเกี่ยวกับท่าทางเวลายืนเดิน หรือนั่ง นอนหนุนหมอนไม่เกิน 2 ใบ นอนพักผ่อนให้เพียงพอ อ้างอิงจาก 1. http://haamor.com/th 2. MIMS Thailand . TIMS. 110th Ed 2008. 3. Analgesichttp://en.wikipedia.org/wiki/Analgesic 4. https://medthai.com/ 5. http://www.starclipnews.com/health_page/3527 6. http://www.siamhealth.net

เป็นโรคที่ทำให้เกิดอาการปวดศีรษะรุนแรงชนิดหนึ่ง จะรู้สึกปวดตุบ ๆ รุนแรง โดยมักปวดบริเวณศีรษะข้างเดียว หรือปวดข้างเดียวก่อนแล้วจึงปวดสองข้าง ในขณะที่ปวดก็มักมีอาการคลื่นไส้หรืออาเจียนร่วมด้วย และอาจมีความรู้สึกไวต่อเสียงและแสงสว่างมากกว่าปกติ บทความโดย ภญ.เสาวณีย์ อินจันทร์ ฟรี ปรึกษาอาหารเสริม เครื่องสำอางและความงาม ตามหลักการแพทย์โดยเภสัชกร ได้ที่ Facebook : GURUCHECK เช็ค กับ กูรู เช็ค ...อาการของไมเกรน มีอาการปวดศีรษะข้างเดียว หรือทั้งสองข้าง มีอาการปวดแบบตุบ ๆ แสงจ้า เสียงดัง และกลิ่นฉุนจะกระตุ้นให้ปวดมากขึ้น มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ตาพร่ามัว มองเห็นภาพไม่ชัด มีอาการเวียนศีรษะ หน้ามืด หรือเป็นลม เช็ค ...สาเหตุของไมเกรน ไมเกรนเป็นผลจากความผิดปกติชั่วคราวในการทำงานของสมองที่มีผลกระทบต่อเส้นประสาท สารเคมี และหลอดเลือดในสมอง แต่สาเหตุที่แท้จริงของไมเกรนนั้นไม่เป็นที่แน่ชัด ซึ่งอาจเกิดได้จากหลายปัจจัยดังนี้ 1. ความเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ช่วงมีประจำเดือน ระหว่างตั้งครรภ์ ช่วงหมดประจำเดือน หรือการรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิด 2. อาหารบางชนิด เช่น ชีส ไวน์แดง ช็อคโกแล็ต น้ำตาลเทียม ผงชูรส ชา และกาแฟ 3. การกระตุ้นทางประสาทสัมผัส อาทิ แสงจ้า เสียงดัง กลิ่นฉุน กลิ่นบุหรี่ 4. รูปแบบการนอนที่เปลี่ยนไป เช่น นอนดึก นอนไม่พอ หรือนอนมากเกินไป 5. สิ่งแวดล้อม เช่น อากาศร้อน ฝุ่นควัน 6. ยาบางชนิด เช็ค …ยาที่ใช้รักษาอาการไมเกรน ชื่อตัวยา ตัวอย่างชื่อยี่ห้อ กลไกการออกฤทธิ์ วิธีใช้ 1.Paracetamol พาราเซตามอล Tylenol ไทลินอล Sara ซาร่า บรรเทาปวดและลดไข้ โดยยับยั้งการสร้างสารเคมีบางตัวในสมองของมนุษย์ที่เกี่ยวข้องกับอาการปวด เช่น สารโพรสตาแกลนดิน (Prostaglandin) และจะชักนำให้เกิดกลไกการลดอุณหภูมิหรือลดไข้ของร่างกายลง เด็ก 10-15 มิลลิกรัม/กิโลกรัม ทุก 4-6 ชั่วโมง (หากจำเป็น) ไม่เกิน 5 ครั้งภายใน 24 ชั่วโมง ผู้ใหญ่ 500 มิลลิกรัม ทุก 4-6 ชั่วโมง ไม่เกิน 4,000 มิลลิกรัม ต่อวัน *ไม่ควรทานต่อเนื่องนานติดต่อกันเกิน 5 - 7 วัน 2.Ibuprofen ไอบูโปรเฟน Nurofen นูโรเฟน Gofen โกเฟน ยับยั้งการทำงานของสารไซโคลออกซิจีเนส (Cyclooxygenase)ซึ่งจะไปเปลี่ยนสารเคมีบางกลุ่มให้กลายเป็นสารโพรสตาแกลนดิน (Prostaglandin) โพรสตาแกลนดินเป็นตัวชักนำให้เกิดอาการปวด การอักเสบ และก่อให้เกิดอาการไข้ของร่างกาย นอกจากนั้นไอบูโปรเฟนยังสามารถออกฤทธิ์โดยตรงที่สมองและบริเวณอวัยวะที่มีอาการปวดได้ เด็ก ให้รับประทานยาวันละ 30-50 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม โดยแบ่งให้ทุก 6 ชั่วโมง (สูงสุดไม่เกินวันละ 2,400 มิลลิกรัม) ผู้ใหญ่ ให้รับประทานยาครั้งละ 400-800 มิลลิกรัม วันละ 3-4 ครั้ง *ควรรับประทานพร้อมหรือหลังอาหารทันทีเพื่อลดการระคายเคืองในกระเพาะอาหาร 3.Ergotamine + Caffeine ยาเออร์โกตามีนผสมคาเฟอีน Cafergot คาเฟอร์กอท Tofago โทฟาโก ทำให้หลอดเลือดที่ขยายตัวผิดปกติเกิดการหดตัวลงและทำให้อาการปวดศีรษะหายไป รับประทานเมื่อมีอาการปวดศีรษะไมเกรนในครั้งแรก 1 หรือ 2 เม็ด จากนั้นทุกๆ ครึ่งชั่วโมงหากอาการไม่ดีขึ้นสามารถรับประทานซ้ำอีกครั้งละ 1 เม็ด แต่ห้ามรับประทานเกิน 6 เม็ดต่อวัน และห้ามรับประทานยาเกิน 10 เม็ด ต่อสัปดาห์ *ห้ามใช้ยานี้ในหญิงตั้งครรภ์ เช็ค ...ยาป้องกันไมเกรน ใช้ในกรณีที่มีอาการปวดไมเกรนบ่อย เช่น เกิน 2 ครั้งต่อเดือน การเกิดอาการปวดแต่ละครั้งรุนแรง หรือผู้ป่วยไม่สามารถรับประทานยาในกลุ่มที่ใช้รักษาอาการปวดไมเกรนแบบเฉียบพลันได้ 1 ยาสกัดเบต้า (β-blocker) ได้แก่ โพรพราโนลอล(propranolol) มีประสิทธิภาพในการป้องกันไมเกรน 55-84% 2 ยาต้านซีโรโตนิน (Anti-serotonin) ได้แก่ ไซโปเฮบตาดีน(cypoheptadine) ซึ่งเป็นยาที่ทำให้ผู้ป่วยรับประทานอาหารได้ดีขึ้น มีประสิทธิภาพในการป้องกันประมาณ 50% 3 ยาแคลเซียมแอนทาโกนิส (Calcium antagonist) ได้แก่ ฟลูนาริซีน(Flunarizine) สามารถป้องกันอาการปวดศีรษะไมเกรนได้ ประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ ยาสกัดเบต้า 4 กลุ่มยากันชัก ที่สามารถนำมาใช้ในการป้องกันการเกิดไมเกรนได้ ได้แก่ โซเดียมวาลโปรเอต โทพิราเมท(Sodium valproate) และกาบ้าเพนติน(Gabapentin) ขนาดยาที่ใช้ป้องกันอาการปวดศีรษะไมเกรนจะน้อยกว่าที่ใช้ในการรักษาโรคลมชัก 5 กลุ่มยา Tricyclic Antidepressants เช่น amitriptyline, nortriptyline, and doxepin มีประโยชน์ในผู้ป่วยนอนไม่หลับและมีอาการซึมเศร้าร่วมด้วย แต่อาจมีผลทำให้ปากแห้ง คอแห้ง ง่วงนอน และน้ำหนัก เช็ค ...ตัวอย่างโรคที่มีอาการปวดศีรษะเรื้อรัง หรือปวดมากคล้ายไมเกรน 1. ปวดศีรษะจากความเครียด (tension headache) ผู้ป่วยจะมีอาการปวดหนัก ๆ มึน ๆ บริเวณรอบศีรษะหรือท้ายทอยติดต่อกันนานเป็นชั่วโมง ๆ เป็นวัน ๆ หรือเป็นสัปดาห์ โดยปวดพอทนอย่างคงที่ต่อเนื่อง และยังทำกิจวัตรประจำวันได้ จะทุเลาเมื่อหายเครียดหรือได้ยาบรรเทา 2. เนื้องอกสมอง (brain tumor) พบได้ในคนทุกวัย ผู้ป่วยจะมีอาการปวดหน่วง ๆ ตึง ๆ ทั่วศีรษะตอนเช้ามืด (ขณะกำลังตื่นนอน) พอตกสาย ไปทำงานหรือเรียนหนังสือก็หายไปเอง เป็นแบบนี้อยู่ทุกเช้า หรือปวดรุนแรง มีอาการอาเจียนบ่อย อาจมีอาการเดินเซ แขนขากระตุกหรืออ่อนแรงตามมาใน 3. หลอดเลือดสมองแตก (cerebral hemorrhage) ผู้ป่วยจะมีอาการปวดทั่วศีรษะฉับพลันและรุนแรงต่อเนื่องเป็นชั่วโมง ๆ หรือเป็นวัน ๆ กินยาแก้ปวดไม่ทุเลา แต่ยังรู้สึกตัวดี ต่อมาก็จะแตก มีเลือดออกมาก ผู้ป่วยจะปวดรุนแรงมาก อาเจียน และหมดสติ หากเป็นตรงส่วนสำคัญ ก็จะเสียชีวิต 4. ต้อหินเฉียบพลัน (acute glaucoma) มักพบในวัยกลางคนขึ้นไปที่มีโครงสร้างของลูกตาผิดปกติซึ่งถ่ายทอดทางพันธุกรรม ช่วงที่มีอาการกำเริบเนื่องเพราะน้ำเลี้ยงภายในลูกตาเกิดการอุดกั้น ทำให้ความดันภายในลูกตาเพิ่มขึ้นฉับพลัน อ้างอิง 1. https://www.bangkokhospital.com 2. http://www.med.cmu.ac.th/nnc/2007/tip/mikirn.htm 3. http://www.pharmacy.mahidol.ac.th/th/knowledge/article 4. http://www.xn--42c6au4awb1a2c8i.com/known.html 5. http://haamor.com/th/ 6. Dr Richard P Kraig, Migraine, University of Chicago 2008-07-24 , 7. http://health-fts.blogspot.com/2012/04/migraine.html 8. นพ.มานิตย์ วัชร์ชัยนันท์, ไมเกรน, http://vatchainan2.blogspot.com/2013/04/2.html